ตลาดซื้อขายโรงแรมไทยคึกคัก เจแอลแอลชี้ปี’64มูลค่ากว่า1.2หมื่นล้าน

นายจักรกริช จักรพันธุ์ ณ อยุธยา รองกรรมการผู้จัดการภาคพื้นเอเชีย หน่วยธุรกิจบริการการลงทุนด้านโรงแรม บริษัทที่ปรึกษาและบริการอสังหาริมทรัพย์ เจแอลแอล(JLL) กล่าวว่าการลงทุนซื้อขายโรงแรมในประเทศไทยปรับตัวดีขึ้นกลับไปที่ระดับก่อนเกิดวิกฤตการณ์โควิด โดยคาดว่าปีนี้ มูลค่าการซื้อขายจะแตะระดับ 12,000 ล้านบาท หากรายการเจรจาซื้อขายที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้รวมมูลค่า 7,000 ล้านบาท โดยการลงทุนซื้อขายโรงแรมที่ปรับตัวสูงขึ้นมากในปีนี้ มีสาเหตุมาจากการที่มีโรงแรมคุณภาพเหมาะสำหรับการลงทุนเสนอขายเพิ่มขึ้น  คาดว่า นักลงทุนต่างชาติจะยังคงให้ความสนใจการลงทุนในตลาดโรงแรมต่อไป โดยเฉพาะการที่ผ่อนคลายการเดินทางระหว่างประเทศ เชื่อจะเข้ามาลงทุนได้มากขึ้นในปี 2565 ซึ่งจะทำให้มีการแข่งขันกันมากขึ้นในหมู่นักลงทุนที่ต้องการซื้อโรงแรมคุณภาพดีในประเทศไทย ที่มา: https://www.naewna.com/business/622193

เศรษฐกิจ – คลังจ่อกระตุ้นศก.-ของขวัญปีใหม่ แบงก์ชาติห่วงหนี้ครัวเรือน-ฉุดเติบโต3ปีข้างหน้า

กระทรวงคลังจ่อกระตุ้นศก.-ของขวัญปีใหม่ ขณะนี้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เป็นของขวัญปีใหม่ ในส่วนของกระทรวงการคลังดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว เตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป ส่วนภาพรวมหลังเปิดประเทศเมื่อ 1 พ.ย. การจัดเก็บรายได้ในช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2565 ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สูงกว่าประมาณการ และสูงกว่าปีก่อนราว 1 หมื่นกว่าล้านบาท อีกทั้งภาพรวมการส่งออกที่เติบโตได้อย่างมีศักยภาพจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยคาดการณ์ว่าปีนี้ภาพรวมการส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้นราว 16-17% ด้านเสถียรภาพระบบการเงินไทยแบงก์ชาติประเมินยังแข็งแกร่ง แต่ห่วง 2-3 ปีข้างหน้าหนี้ครัวเรือนอาจส่งผลกระทบเติบโต แนะรัฐเร่งช่วยเหลือรายย่อย ที่มา : […]

แบงก์ชาติห่วงหนี้ครัวเรือนถ่วงเศรษฐกิจไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า ทาง ธปท.ได้เปิดเผยผลการประชุมร่วมกันระหว่าง คณะกรรมการการนโยบายการเงิน (กนง.) และ คณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน (กนส.) เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 64 เพื่อติดตามและประเมินเสถียรภาพระบบการเงินไทย โดยที่ประชุมเห็นว่าระบบการเงินไทยโดยรวมยังมีเสถียรภาพ ธนาคารพาณิชย์มีเงินกองทุนเงินสำรองและสภาพคล่องอยู่ในระดับสูง และสามารถทำหน้าที่เป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนความต้องการสินเชื่อเพื่อรองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาหน่วยงานกำกับดูแลได้ออกมาตรการเพื่อดูแลเสถียรภาพระบบการเงินและช่วยเหลือภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง โดยหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพสินเชื่อของสถาบันการเงิน และเป็นแรงกดดันต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในระยะถัดไปนั้น ควรเร่งผลักดันมาตรการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยที่มีภาระหนี้สูงอย่างต่อเนื่อง ที่มา : https://bit.ly/3DTgkJN

ททท.ของบ 1.3 หมื่นล้านบาท มอบของขวัญปีใหม่ “เราเที่ยวด้วยกัน” เฟส 4

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย (ททท.) จะขอขยายโครงการทัวร์เที่ยวไทย จากสิ้นสุดเดือน ม.ค.65 ไปถึงเดือน มี.ค.65 ขณะที่เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 มีการจอง 2 ล้านห้อง/คืนหมดแล้วในช่วงเย็นวันที่ 12 ธ.ค.64 ซึ่งนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาจัดทำ เฟส 4 เพิ่มอีก 2 ล้านห้อง/คืน โดยใช้ได้ถึงเดือน […]

พลิกฟื้นอุตฯการบิน กลับมาสร้างรายได้เข้าประเทศ

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่าอุตฯ การบินในประเทศไทยสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 85,000 ล้านบาทต่อปี หรือราว 7.7% ของ GDP และสร้างการจ้างงานในระบบอุตสาหกรรมการบินโดยรวมได้กว่า 700,000 ตำแหน่ง ขณะที่อุตฯ การบินโดยรวมในประเทศไทยเป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ โดยในช่วงปี 2555-2562 พบว่าาอัตราการเติบโตของปริมาณผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทยสูงขึ้นในทุกๆ ปีเฉลี่ยประมาณ 9.4% ต่อปี และยังเชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะหลุดพ้นจากประเทศกับดักรายได้ปานกลาง ที่มา: https://www.naewna.com/business/621928

กสิกรฯคาดปีใหม่คนกรุงฯใช้จ่ายเงินสะพัด 30,500 ล้านบาทเน้นการสังสรรค์-ช้อปปิ้ง

หลังจากภาครัฐมีมาตรการผ่อนคลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ตามสัญญาณบวกจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 และการเข้าถึงวัคซีนได้มากขึ้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า เม็ดเงินใช้จ่ายของคนกรุงเทพฯ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 รวมน่าจะอยู่ที่ประมาณ 30,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.0% (YoY) (กรณีไม่มีการระบาดรุนแรงเพิ่มเติม) จากปีก่อนหน้า โดยประมาณการมูลค่าการใช้จ่ายของคนกรุงฯ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 รายประเภทกิจกรรม พบว่าการเลี้ยงสังสรรค์ ค่าอาหารเครื่องดื่ม มีเม็ดเงินมากที่สุด รองลงมาช้อปปิ้ง ซื้อสินค้าส่วนตัว ของขวัญ, เดินทางในประเทศ ค่าเดินทาง ที่พัก, ค่าบริการ […]

ลดเสี่ยงเกิดคลัสเตอร์หลังปีใหม่ ส.เอสเอ็มอี วอนรัฐพาชุดตรวจเชื้อคุณภาพ 40 บาทให้ปชช.ซื้อหาสะดวก

นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เปิดเผย มติชน ว่า การผ่อนคลายให้จัดเคาต์ดาวน์และให้มีกิจกรรมกินดื่มฉลองปีใหม่นั้น เห็นว่าจะส่งผลดีในแง่เศรษฐกิจ ที่จะผ่อนคลายบรรยากาศในช่วงเปลี่ยนผ่านปี หน่วยงานราชการ ท้องถิ่น เอกชน ประชาชน ทุกพื้นที่ต้องร่วมกันกวดขันควบคุมอย่างเข้มงวด ดูแลซึ่งกันและกัน การแพร่ระบาดจะอยู่วงจำกัด และช่วงก่อนปีใหม่ หากเร่งฉีดวัคซีนครบโดสเพิ่มให้เกิน 70% ของประชากรทั้งประเทศจะส่งผลให้ ระบบภูมิคุ้มกัน ลดความรุนแรงของการติดเชื้อได้ ที่สำคัญ คือ การเข้าถึง ATK ที่มีราคาต่ำ ไม่เกิน 40 บาท […]

กนอ.เร่งเครื่องดึงลงทุนเข้านิคมฯ

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผย การขับเคลื่อนของ กนอ. ต่อจากนี้จะเน้นเร่งดึงดูดการลงทุน หาช่องทางธุรกิจใหม่ รวมทั้งนำไทยเป็นศูนย์กลางฐานการผลิตของภูมิภาคอาเซียน สำหรับปี 2565 นอกจากเร่งดึงดูดการลงทุนในนิคมแล้วยังให้ความสำคัญกับการจัดทำแผนบริหารความเสี่ยงเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการโดยนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาใช้ในการบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรม อาทิโครงการ Facility 4.0 ในการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคในนิคมอุตสาหกรรม การทำ Digital Twin ระบบบำบัดน้ำเสีย Smart Meter การพัฒนาศักยภาพบุคลากร กนอ. โดยเฉพาะด้าน IT Digital รวมถึงกนอ.จะแสวงหาช่องทางธุรกิจใหม่ๆ เพื่อเพิ่มสร้างรายได้ในระยะยาว […]

กบข. จับตาประชุม Fed ชี้อาจเร่งขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าเดิม

คณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า ด้มีการติดตามการประชุมอย่างใกล้ชิด และมองว่า Fed จะปรับท่าทีเป็นเข้มงวด (Hawkish) มากขึ้นซึ่งคาดว่า Fed มีแนวโน้มที่จะดำเนินการ Taper เร็วขึ้นเป็นมากกว่า 15 พันล้าน ดอลลาร์ต่อเดือน ทำให้ QE สิ้นสุดลงระหว่างไตรมาสที่ 2 ของปี 2565 ตามด้วยการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยประมาณ 2 ครั้งในช่วงครึ่งหลังของปีเดียวกัน หวังลดเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง ทั้งนี้ กบข. แนะให้ความสำคัญการถือครองสินทรัพย์และการปรับการจัดสรรพอร์ตการลงทุนที่สามารถช่วยป้องกันความเสี่ยงอัตราเงินเฟ้อ ที่มา […]

สั่งรื้อบีโอไอดึงทุนต่างชาติ ปรับทุกองคาพยพอ้าแขนรับคนต่างด้าวทำงานไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบจัดทำแนวทางการปรับโครงสร้างสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เพื่อให้เป็นหน่วยงานหลัก ในการดึงดูดนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ในอุตสาหกรรมและบริการใหม่ๆ ที่เป็นเป้าหมายของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งใช้มาตรการสร้างแรงจูงใจอื่นๆ ที่ไม่ใช่สิทธิประโยชน์ภาษีในการส่งเสริมการลงทุนให้มากขึ้นกว่าเดิม โดยให้เสร็จภายใน 3 เดือน ส่วนการลงทุนโครงการสำคัญของรัฐบาลนั้น ได้สั่งการให้กระทรวงคมนาคม เร่งยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ โดยเฉพาะโครงการลงทุนรถไฟทางคู่และทางเดี่ยว ที่เป็นเส้นทางเชื่อมต่อการขนส่งสินค้าส่งออกกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ ที่มา : https://www.thairath.co.th/business/economics/2263581