TDRI คาดศก.ไทยปีนี้โต 1.5% แนะรัฐเยียวยา SME ภาคบริการเพื่อรักษาการจ้างงาน

สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) คาดว่า เศรษฐกิจไทยในปี 64 จะเติบโตได้ที่ 1.5% จากความไม่แน่นอนในการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ซึ่งกระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในปีนี้ให้ลดลงเหลือประมาณ 5 แสนคน จากเดิมที่เคยคาดไว้ว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาประมาณ 1 ล้านคน ทั้งนี้ มีข้อเสนอต่อภาครัฐที่นอกเหนือจากการเยียวยาช่วยเหลือแจกเงินแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบแล้ว คือจะต้องมีการช่วยเหลือผู้ประกอบการ และ SMEs ในภาคบริการ การช่วยพยุงธุรกิจให้สามารถอยู่ได้ และรักษาการจ้างงานไว้ เพื่อให้ธุรกิจสามารถกลับมาดำเนินงานได้หลังจากคลายล็อคดาวน์ ที่มา : https://www.infoquest.co.th/2021/105752

เชื่อนักลงทุนเข้าใจไทยล็อคดาวน์ดีกว่าปล่อยลากยาว

นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บมจ.อมตะคอร์ปอเรชัน เผย มาตรการยกระดับควบคุมพื้นที่สูงสุด 10 จังหวัดที่เริ่มวันที่ 12 ก.ค. ของรัฐบาล เชื่อว่า จะกระทบระยะสั้นเท่านั้น และในสายตานักลงทุนต่างชาติเข้าใจถึงสถานการณ์เป็นอย่างดี ซึ่งหากไทยยังปล่อยให้มีการแพร่ระบาดและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นมากกว่า ทั้งนี้สิ่งสำคัญคือการบริหารจัดการด้านวัคซีนทั้งระบบ ทั้งในเรื่องการจัดหา แผนการกระจาย ให้ถึงมือประชาชนและครอบคลุมจำนวนประชากร 70% เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ควบคู่ไปด้วย ที่มา: https://www.dailynews.co.th/news/47803/

‘จุรินทร์’ สั่งเซลล์แมนจังหวัดรับมือสับปะรดกระจุกตัวไตรมาส 4

คณะกรรมการนโยบายและพัฒนาสับปะรดแห่งชาติเปิดเผยปี 2564 คาดว่าจะมีผลผลิตสับปะรดประมาณ 1.8 ล้านตัน ซึ่งจะออกสู่ตลาดมากช่วงเดือนต.ค.- ธ.ค. 5.57 แสนตัน ผลผลิตที่กระจุกตัวในช่วงเวลาดังกล่าวอาจจะส่งผลต่อราคาสับปะรดที่เกษตรกรขายได้ ที่ประชุมจึงเห็นชอบให้มีแนวใช้กลไกคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรกรอันเนื่องมาจากผลผลิตการเกษตรระดับจังหวัด (คพจ.) และเซลล์แมนจังหวัดในแหล่งผลิตสับปะรด เร่งแก้ปัญหาผลผลิตโดยกำหนดเป็นมาตรการเชิงรุก รวมทั้งขอความร่วมมือกลุ่มวิสาหกิจชุมชน สถาบันเกษตรกร และภาคเอกชน รับซื้อผลผลิตเพื่อนำมาแปรรูปและส่งเสริมการปรับเปลี่ยนแผนการผลิต ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/948092

SME D Bank คิกออฟหนุนเอสเอ็มอีท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่องพื้นที่ Sandbox

นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เปิดเผยว่า จากนโยบายรัฐบาลที่เตรียมเปิดประเทศในช่วงปลายปีนี้ SME D Bank จึงออกมาตรการสนับสนุนพิเศษให้ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว และเกี่ยวเนื่อง (Supply Chain) เช่น โรงแรม ห้องพัก ร้านอาหาร สปา เดินรถ ขนส่ง ฯลฯ สามารถเข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำได้สะดวก เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์เร่งด่วนในปัจจุบัน เพื่อให้ผู้ประกอบการมีเงินทุนไปเสริมสภาพคล่อง สามารถนำไปใช้วางแผนฟื้นฟูธุรกิจพร้อมรับเปิดประเทศ […]

คาดล็อกดาวน์รอบนี้ ศก.สูญกว่า 4.9-6.3 หมื่นล้านบ. แนะรัฐเยียวยาเสมอภาค

นายอนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยว่า จากการประเมินในเบื้องต้นคาดว่าการล็อกดาวน์กิจกรรมทางเศรษฐกิจในพื้นที่เสี่ยง และยกระดับมาตรการควบคุมโรคตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคมนั้น จะทำให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจประมาณอย่างต่ำวันละ 3,500-4,500 ล้านบาท ทำให้เกิดความเสียหายโดยรวมขั้นต่ำในระยะเวลา 2 สัปดาห์ประมาณ 49,000-63,000 ล้านบาท ผลกระทบทางด้านความสูญเสียทางเศรษฐกิจจากการล็อกดาวน์ครั้งนี้ น้อยกว่าการล็อกดาวน์ทั้งประเทศในช่วงปี 2563 ที่มา: https://mgronline.com/stockmarket/detail/9640000067607

พาณิชย์อัพเกรดข้อตกลง เอฟทีเอ‘อาเซียน-คู่ค้า’ใหม่

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมเตรียมเชิญภาครัฐ และภาคเอกชนร่วมประชุมหารือ เรื่องการยกระดับและทบทวนความตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่อาเซียนทำกับจีน (ACFTA) เกาหลีใต้ (AKFTA) และอินเดีย (AIFTA) ในวันที่ 15 ก.ค.2564 เพื่อร่วมกันพิจารณาประเด็นที่ต้องการให้มีการเพิ่มเติมในการเจรจาปรับปรุง FTA ทั้ง 3 ฉบับ ให้สอดรับกับพัฒนาการทางการค้าโลกและเป็นประโยชน์ต่อไทยมากที่สุด ที่มา: https://www.naewna.com/business/586874

อสังหาฯ หวั่นเจ็บแต่ไม่จบแนะ 3 แผนสกัด

นายอธิป พีชานนท์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า มาตรการล็อกดาวน์ในครั้งนี้ รัฐบาลต้องวางแผนการปฏิบัติงานที่ชัดเจนว่า ระหว่างล็อกดาวน์ 14 วัน โดยมี 3 วาระที่ต้องดำเนินการเร่งด่วน คือ 1.จัดให้มีการตรวจคัดกรองให้มากที่สุด 70 -80% ของคนในพื้นที่ ของประชาชนให้้มีโอกาสได้ตรวจคัดกรองในราคาที่ไม่แพง 2.เร่งฉีดวัคซีนในพื้นที่สีแดง ป้องกันการติดเชื้อเพิ่มขึ้น และ 3.เยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์ จะดูแลอย่างไร เพราะสุดท้ายต้องกลับภูมิลำเนาทำให้เกิดการแพร่เชื้อในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น ที่มา: https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/948347

สรรพากรยันไม่เรียกเก็บแวท ค่าบริการรักษาพยาบาล

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เผยถึง กระแสข่าวว่าประชาชน ต้องแบกรับภาษีมูลค่าเพิ่ม จากการที่จะต้องถูกโรงพยาบาลเอกชนเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มว่า เป็นการเข้าใจคลาดเคลื่อน เพราะการให้บริการรักษาพยาบาลของสถานพยาบาล ได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ดังนั้นโรงพยาบาลเอกชน จึงได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ดังนั้นโรงพยาบาลเอกชนจึงไม่สามารถเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากวัคซีนทางเลือกที่ให้บริการแก่ประชาชนได้ ที่มา: https://www.dailynews.co.th/news/43652/

ธปท.-ก.ล.ต. ระวังลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล ไม่หนุนใช้ซื้อสินค้าและบริการ

นางสาวสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ติดตามการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลในรูปแบบต่างๆ และเห็นการเชิญชวนให้นำสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทต่างๆ เช่น Bitcoin Ether มาใช้เป็นสื่อในการชำระค่าสินค้าและบริการมากขึ้น ซึ่ง ธปท.ได้เคยแจ้งย้ำถึงสถานะของสินทรัพย์ดิจิทัลว่าไม่ถือเป็นเงินตราตามกฎหมาย ดังนั้น การนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้ในรูปแบบดังกล่าวจึงมีลักษณะเป็นการแลกเปลี่ยน (barter trade) ระหว่างสินทรัพย์ดิจิทัลกับสินค้าและบริการที่ผู้ให้และผู้รับตกลงยอมรับความเสี่ยงระหว่างกัน โดยอาจมีความเสี่ยงจากความผันผวนของมูลค่าสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงความเสี่ยงจากการสูญเสียมูลค่ในกรณีต่างๆ ที่มา : https://www.thairath.co.th/business/investment/2135992

‘จุรินทร์’ ผลักดันส่งออกสินค้าตอบโจทย์เมกะเทรนด์โลก อาหาร-สมุนไพร-เครื่องสำอาง

นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้จัดทำแผนตามยุทธศาสตร์ “ตลาดนำการผลิต” ตามที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้สั่งการให้เร่งดำเนินการเพิ่มเติม โดยได้วางแผนในการส่งเสริมและผลักดันการส่งออกสินค้าที่ตอบโจทย์เมกะเทรนด์ของโลกในหลายด้าน ทั้งเรื่องการปกป้องสิ่งแวดล้อม ความต้องการสินค้าอาหารที่มีคุณภาพสูง อาหารฮาลาลสำหรับผู้บริโภคชาวมุสลิม และสินค้าที่มีแนวโน้มเติบโตสูง หลังจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากผลกระทบจากโควิด-19 ที่มา : https://www.thaipost.net/main/detail/109125