“ธปท.” แจง แซงชั่นรัสเซียไม่กระทบระบบชำระเงินไทย

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า กรณีที่สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรตะวันตก ประกาศที่จะใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจเพิ่มเติมด้วยการตัดบรรดาธนาคารรัสเซียหลายแห่งออกจากระบบสมาคมธุรกิจโทรคมนาคมทางการเงินระหว่างธนาคารทั่วโลก หรือ สวิฟต์ (SWIFT) ว่า ธปท. กำลังติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เบื้องต้นมองว่าประเด็นดังกล่าวยังไม่ส่งผลกระทบต่อระบบการชำระเงินของไทย ทั้งนี้ มีการประเมินผลกระทบในระยะสั้นจะเกิดผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่ ความผันผวนในตลาดการเงิน ความผันผวนในตลาดการเงิน  เศรษฐกิจโลกอาจจะชะลอตัวลง ที่มา : https://www.posttoday.com/finance-stock/news/676921

รัสเซีย ขึ้นดอกเบี้ยจาก 9.5% รวดเดียว 20% “กรณ์” วิเคราะห์สะเทือนราคาสินค้าไทย

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีธนาคารกลางรัสเซียเพิ่มอัตราดอกเบี้ยกว่าเท่าตัวว่า จาก 9.5% เป็น 20% วิเคราะห์สะเทือนราคาสินค้าไทย ในระยะสั้นกับไทยยังคงเป็นเรื่องราคาน้ำมันที่สูงขึ้น และผลกระทบที่จะได้รับจากปัญหาเศรษฐกิจของโลกที่จะต้องสะดุดอีกครั้ง หลังจากที่เพิ่งเริ่มฟื้นตัวจากโควิด รัฐบาลควรต้องชี้แจงกับประชาชนในข้อเท็จจริงและผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับราคาสินค้าและต้นทุนผู้ประกอบการ กระทรวงพาณิชย์ควรต้องเตรียมป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าเกินความเป็นจริง และทีมเศรษฐกิจควรคิดมาตรการไว้เผื่อรองรับสภาวะของแพงแต่รายได้น้อย ทั้งในส่วนของประเทศและประชาชน ที่มา : https://www.prachachat.net/politics/news-876056

พาณิชย์หารือภาคเอกชน เช็คผลกระทบความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ กล่าวว่าจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ทำหน้าที่ร่วมกับทุกส่วนราชการของกระทรวงพาณิชย์ ติดตามสถานการณ์ร่วมกับภาคเอกชนโดยใกล้ชิด สำหรับเรื่องราคาน้ำมันที่เป็นห่วงว่าจะพุ่งสูง อาจกระทบภาคการผลิตและราคาสินค้าอุปโภค-บริโภคในประเทศไทยได้ และเรื่องค่าเงินรูเบิลของรัสเซีย ซึ่งมีความสำคัญต่อการนำเข้าส่งออกของไทย ถือว่ายังไม่เสถียร สำหรับรัสเซียขณะนี้กำลังพิจารณานำเข้าสินค้าจากไทยบางรายการ ต้องดูว่าค่าเงินยังมีความผันผวนมากน้อยแค่ไหน เมื่อค่าเงินรูเบิลมีความเสถียรแล้ว ทุกอย่างจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ โดยในภาพรวมยังไม่กระทบอย่างมีนัยสำคัญ ที่มา: https://www.naewna.com/business/638530

‘ธนวรรธน์’เชื่อ ศึกสู้รบ’ยูเครน’ กระทบวงจำกัด

ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า สถานการณ์ความรุนแรงยูเครน-รัสเซีย มองว่า อยู่ในวงจำกัดไม่กระทบเศรษฐกิจโลก ช่วงแรกของการประกาศบุกยึดยูเครน ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทะลุ 100 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับลดลงร้อยละ 2-5 เพราะคาดการณ์อนาคตไม่ได้ อาจทำให้รัสเซียส่งออกน้ำมันไม่ได้ หรือรัสเซียไม่ส่งน้ำมันให้ยุโรป หากสู้รบบานปลาย ตลาดจึงคาดการณ์การค้าขาย การท่องเที่ยวโลกจะแย่ลง หากความรุนแรงทั้งสองประเทศยืดเยื้อ จนทำให้ราคาน้ำมันตลาดโลกพุ่งถึง 120 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล จะกระทบต่อไทย ทำให้ราคาขายปลีกแพงขึ้น กระทบต่อการท่องเที่ยว การส่งออก กระทบจีดีพีไทย ขยายตัวร้อยละ 3.5-4 […]

วิกฤติรัสเซีย-ยูเครน แห่ขนเงินซื้อทองคำวันเดียวปรับขึ้นแตะ1,100บาท

รายงานข่าวจาก สมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน ที่เพิ่มความรุนแรงขึ้น ส่งผลให้ราคาทองคำปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากนักลงทุนย้ายเงินจากสินทรัพย์เสี่ยงมาลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยทำให้วันนี้ (24 ก.พ.65) ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาวันเดียว 1,100 บาท ส่งผลให้ทองคำแท่งมีราคารับซื้อที่บาทละ 29,900 บาท ขายออกที่บาทละ 30,000 บาท และทองรูปพรรณ รับซื้อที่บาทละ 29,364.920 ขายออกที่บาทละ 30,500 บาท ด้าน นายพิชญา พิสุทธิกุล อุปนายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า หากสถานการณ์ดังกล่าวยังมีความรุนแรงต่อเนื่อง […]

เอกชนจับตารัสเซียยูเครนเชื่อไม่กระทบส่งออก

สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนยังคงต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเวลานี้ยังคงมีความไม่ชัดเจนว่าประเทศที่เกี่ยวข้องจะเดินหน้าไปในทิศทางใด แต่เชื่อว่ากำลังหาทางออกที่ดีที่สุด ในขณะที่ประเทศไทยเองการค้าในภูมิภาคดังกล่าวอาจได้รับผลกระทบ แต่เชื่อว่าจะไม่ถึงขั้นทำให้การส่งออกของประเทศไทยหยุดชะงัก เนื่องจากเวลานี้ หลายฝ่ายได้มีการเตรียมแผนรองรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น ด้วยการ พิจารณาหาตลาดอื่นรองรับและเชื่อว่าเมื่อสถานการณ์จบลงจะสามารถกระตุ้นยอดการส่งออกเพื่อชดเชยในส่วนที่ได้รับผลกระทบได้อย่างไรก็ตามมองว่าสินค้าที่จะได้รับผลกระทบส่วนใหญ่จะอยู่ในส่วนของสินค้าฟุ่มเฟือยหรือสินค้าที่ไม่มีความจำเป็นต่อการครองชีพ แต่สำหรับสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไปรวมถึงสินค้าอาหารนั้นเชื่อว่ายอดขายจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ที่มา : https://www.innnews.co.th/news/economy/news_295793/

ประธานสภาหอการค้าไทยหวั่น “แซงก์ชัน” รัสเซีย ส่งผลราคาน้ำมันโลกขึ้น

นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานสภาหอการค้าไทย เปิดเผยถึงความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนว่า ภาคเอกชนมีความกังวลสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาน้ำมันโลกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ และกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้า แม้ว่ารัฐบาลลดภาษีดีเซล 3 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ก็อาจทำให้รัฐบาลไม่สามารถแบกภาระต่อไปได้อีก อย่างไรก็ตาม ยังคิดในแง่ดีว่า ทั้งรัสเซียและยูเครนน่าจะหาวิธีการลดความตึงเครียดนี้ได้โดยการเจรจาระหว่างกัน ขณะนี้ก็มีการเล่นสงครามด้านจิตวิทยาเพื่อสร้างอำนาจการต่อรอง ที่มา : https://www.thairath.co.th/business/oil/2318822