รัฐบาลคาดโควิดไม่สะเทือนเศรษฐกิจปี 65 โต 4%

ปัจจุบันการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยยังไม่มีจุดสิ้นสุด แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นเริ่มอยู่ในวงจำกัดจากผลของมาตรการด้านสาธารณสุขและการเร่งกระจายวัคซีนที่มีความครอบคลุมมากขึ้นบวกกับผลของมาตรการทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยจึงมีแนวโน้มฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ กระทรวงการคลังคาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2564 จะขยายตัวที่ 1.2% ต่อปี กลับมาขยายตัวเป็นบวกหลังจากหดตัวที่ -6.1% ในปี 2563 เนื่องจากเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 ฟื้นตัวได้ดีจากการส่งออกสินค้า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และการเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ทั้งนี้ ขณะที่เศรษฐกิจไทยในปี 2565 คาดว่าจะขยายตัวเร่งขึ้นมาอยู่ที่ 4.0% ต่อปี สูงกว่าก่อนเกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในปี […]

ท่องเที่ยวเหนือฟื้นตัวเบาหวิว อัตราเข้าพักวูบเหลือ 20% ทุบธุรกิจโรงแรมปิดถาวร 30%

นางละเอียด บุ้งศรีทอง นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ (ตอนบน) เปิดเผยว่า ภาพรวมการท่องเที่ยวภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ ขณะนี้มีอัตราการเข้าพักในเดือนก.พ. อยู่ที่ 20% เพิ่มขึ้นจาก 10-15% ของเดือนม.ค. ที่ผ่านมา แม้ปรับเพิ่มขึ้น แต่ยังถือว่าชะลอตัวลงมาก หากเทียบกับเดือนพ.ย. 2564 มีอัตราการเข้าพักที่ 55-58% เดือนธ.ค. 2565 อยู่ที่ 70% สะท้อนให้เห็นว่าช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี 2564 การท่องเที่ยวปรับตัวขึ้นมาดีมาก แต่เมื่อเจอการระบาดโควิด-19 […]

กรมเจรจาฯเร่งปิดดีล FTA เพิ่มโอกาสการค้า-ลงทุน

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงแผนการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) ในปี 2565 ว่า กรมฯจะ เดินหน้าเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรีอย่างเต็มที่ โดยมีแผนเจรจา FTA ที่ค้างอยู่กับตุรกี เตรียมที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม รอบที่ 8 ในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน 2565 เพื่อหารือเรื่องการเปิดตลาดสินค้าและจัดทำข้อบท FTA ที่ยังค้างอยู่ให้คืบหน้ามากที่สุด ตั้งเป้าสรุปให้สำเร็จภายในปีนี้ ส่วนการเจรจา FTA กับปากีสถาน ปัจจุบันใกล้เสร็จแล้ว คงเหลือในส่วนของการเปิดตลาดอยู่ระหว่างนัดหมายปากีสถาน และการเจรจา FTA อาเซียน-แคนาดา […]

เปิดฉาก RCEP เดือนแรกฉลุย เอกชนแห่ส่งทูน่าบุกตลาดญี่ปุ่น-ทุเรียนจีน

กรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2565 หลังจากไทยเริ่มบังคับใช้ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ระหว่างไทยร่วมกับ 14 ประเทศ พบว่ามีผู้เข้ามาขอใช้สิทธิเพื่อลดภาษีส่งออกจากข้อตกลงนี้แล้ว รวมมูลค่า 8.52 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 285 ล้านบาท RCEP ทำให้สามารถใช้กฎว่าด้วยแหล่งกำเนิดสินค้าเป็นชุดเดียวกัน มีการจัดทำกฎเฉพาะรายสินค้า และอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการสะดวกในการสะสมแหล่งกำหนดสินค้า สามารถซื้อวัตถุดิบในแต่ประเทศมาผลิตคิดรวมกันได้ช่วยการคำนวณแหล่งถิ่นกำเนิดได้มากขึ้น ถือเป็นการต่อยอดสายการผลิตและขยายมูลค่าเพิ่มของห่วงโซ่อุปทานระดับภูมิภาค ทั้งนี้กรมการค้าต่างประเทศกางแผนคิกออฟสัมมนาหนุนผู้ประกอบการใช้สิทธิเพิ่ม ที่มา : https://www.prachachat.net/economy/news-865928

หนุนลงทุนอุตสาหกรรมพลังงาน “โอเลโอเคมีคัล” เพิ่มมูลค่าปาล์มน้ำมัน

สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เปิดเผย มีมติเห็นชอบการกำหนดผลิตภัณฑ์โอเลโอเคมีคัลเป้าหมายเพิ่มเติมจากที่ได้รับการส่งเสริม จาก 6 ผลิตภัณฑ์เป้าหมายเดิมเป็น 8 ผลิตภัณฑ์ การเพิ่มผลิตภัณฑ์โอเลโอเคมีคัลเป้าหมายที่ 7 คือ น้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพ กรีนดีเซล (Bio Hydrogenated Diesel: BHD) และผลิตภัณฑ์เป้าหมายที่ 8 คือ น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพ ไบโอเจ็ต (Biojet fuels) จะเป็นการดูดซับการใช้น้ำมันปาล์มและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มทั้งระบบอีกทั้งยังขับเคลื่อนตามมาตรการและแนวทางการเพิ่มมูลค่าปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มจะเป็นการยกระดับและสร้างมูลค่าเพิ่มตลอดห่วงโซ่การผลิตปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม กระตุ้นให้เกิดการลงทุนยกระดับเทคโนโลยีและสร้างนวัตกรรมให้ภาคอุตสาหกรรม ตอบสนองกระแสรักษ์สิ่งแวดล้อม ที่มา : https://www.prachachat.net/economy/news-866744

ส.อ.ท.ชี้ขึ้นค่าขนส่ง กระทบราคาสินค้าแน่

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. เปิดเผยสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า กรณีที่ภาคขนส่งออกมาเรียกร้องในเรื่องของราคาน้ำมัน หากไม่ได้ตามที่กำหนด จะปรับขึ้นราคาค่าขนส่งอีก 20% นั้น จะกระทบต่อราคาสินค้า โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างแน่นอน รวมทั้งผู้ประกอบการSMEs ซึ่งไม่ได้ทำสัญญาค่าขนส่งระยะยาว เหมือนกับบริษัทขนาดใหญ่ที่มีการกำหนดราคาค่าขนส่งล่วงหน้าเฉลี่ย 1-3 เดือน และแน่นอนว่าเมื่อต้นทุนสูงขึ้นแนวโน้มราคาสินค้าก็ยังจะคงสูงอย่างต่อเนื่อง ที่มา: https://www.innnews.co.th/news/economy/news_291207/

“สภาพัฒน์” ชี้ 3 ปัจจัยฉุดเศรษฐกิจไทย แนะเร่งปรับโครงสร้าง เพิ่มโอกาสเติบโต

นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวว่าโครงสร้างเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันถือว่ายังมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจที่ดี แต่กำลังเผชิญกับข้อจำกัดในการขยายตัวทางเศรษฐกิจในอนาคต โดยนอกจากผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมาที่ทำให้เศรษฐกิจไทยมีความเปราะบางมากขึ้นจากหนี้ครัวเรือน หนี้สาธารณะที่สูงขึ้น รวมทั้งอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่เป็นข้อจำกัดในการฟื้นตัว ตลอดจนโครงสร้างประชากรที่จะเข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ในปี 2578 ที่มา: https://www.bangkokbiznews.com/business/987702

แบงก์เตือน รับกระแสเงินร้อนเข้า-ออกเร็ว ทำเงินบาทผันผวน

ธนาคารกรุงไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กรอบเงินบาทสัปดาห์หน้า (วันที่ 14-18 กุมภาพันธ์ 65) เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.50-33.00บาทต่อดอลลาร์ ปัจจัยที่ต้องติดตาม จะเป็นรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งจะมีรายละเอียดของการประชุม ซึ่งจะสะท้อนความคิดเห็นของคณะกรรมการเฟดต่อการดำเนินนโยบายการเงิน ทั้งในส่วนของความเร็วในการปรับขึ้นดอกเบี้ย และขนาดของการปรับจะมากกว่า 0.25% มาเป็น 0.50% รวมถึงการลดงบดุล โดยจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าได้ ทั้งนี้คาดการณ์เฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย-ดึงสภาพคล่องกลับ เตือนระวังกระแสเงินร้อนเข้า-ออกเร็ว หนุนค่าเงินผันผวน ที่มา : https://www.prachachat.net/finance/news-864367

พาณิชย์ วิเคราะต้นทุนการผลิตสินค้า หลังราคาน้ำมันแพง

กรมการค้าภายใน ได้ทำการวิเคราะห์ผลกระทบต้นทุนน้ำมันดีเซลต่อต้นทุนการผลิตสินค้า พบว่า มีผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้าไม่มาก จึงไม่ใช่เหตุผลที่ผู้ผลิตจะใช้ในการปรับขึ้นราคา และได้ขอความร่วมมือให้ตรึงราคาสินค้าไปก่อน โดยผลการวิเคราะห์ เช่น สินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่ม มีต้นทุนเพิ่มขึ้น 1.45% ของใช้ประจำวัน เพิ่ม 1.1% วัสดุก่อสร้าง เพิ่ม 1.2% กระดาษและผลิตภัณฑ์ เพิ่ม 5% ปัจจัยการเกษตร เช่น ปุ๋ยเคมี ยาปราบศัตรูพืช เพิ่ม 0.5% เป็นต้น อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการดูแลราคาสินค้าไม่ให้ส่งผลกระทบกับผู้บริโภค กรมฯ […]

รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เผย 40 ประเทศเก็บค่าเหยียบแผ่นดิน

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายท่องเที่ยวแห่งชาติ (ท.ท.ช.) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ยืนยันที่จะเริ่มเก็บจัดเก็บค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวประเทศไทยจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ หรือที่เรียกกันติดปากว่าค่าเหยียบแผ่นดิน ในอัตรา 300 บาทต่อคนต่อครั้ง ภายในปีนี้แน่นอน แต่เลื่อนจากกำหนดเดิมเริ่มต้นจัดเก็บในเดือน เม.ย.ออกไปอีก 2 เดือน หรือประมาณเดือน มิ.ย.65 เนื่องจากมีขั้นตอนต้องนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี และต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งจะมีผลหลังจากนั้น 90 วัน โดยต้องทำรายละเอียดเหล่านี้เสร็จสิ้นก่อน สายการบินต่างๆ ถึงจะมาสมัครทำข้อตกลงเข้าร่วมว่าจะเป็นผู้แทนในการจัดเก็บให้ได้อย่างไร ที่มา : https://www.thairath.co.th/business/economics/2315257