ข่าวดี! ไทยส่งออกมันสำปะหลังปี 64 ทำรายได้ทะลุ 1.2 แสนล้าน

อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในปี 2564 ไทยส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังปริมาณสูงถึง 10.38 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 45% มีมูลค่า 123,209 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ตลาดส่งออกหลักที่ไทยส่งออกมากที่สุดคือ จีน (69%) รองลงมาได้แก่ ญี่ปุ่น (8%) อินโดนีเซีย (3%) เกาหลีใต้ (2%) และอื่นๆ (18%) ส่งผลให้ราคาหัวมันสำปะหลังสดในประเทศ ปีการผลิตปี 2564/65 […]

ผลไม้-อาหารพร้อมทานมาแรง DITP ชี้ช่องผู้ส่งออกเจาะตลาดญี่ปุ่น

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ดำเนินการตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ที่ได้สั่งการให้หาช่องทางการทำตลาดให้กับสินค้าในกลุ่มสินค้าเกษตรและอาหารของไทย เพื่อเพิ่มโอกาสในการส่งออก โดยล่าสุดได้รับรายงานจากผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโตเกียว ถึงโอกาสในการทำตลาดสินค้าที่มีศักยภาพในตลาดญี่ปุ่น และกลยุทธ์ในการเจาะตลาดญี่ปุ่น โดยสินค้าที่มีโอกาสในการทำตลาดในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ได้แก่ ผลไม้ไทย เช่น มะม่วงดิบ มะม่วงสุก มะพร้าวสด มังคุด ทุเรียน เป็นต้น ส่วนสินค้าจำพวกอาหารพร้อมทาน เช่น แกงเขียวหวาน […]

ส่งออกภาคใต้เฟื่องฟู โต 34.7% สูงกว่าภาพรวมประเทศ พณ. กางสินค้าทำเงิน

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า สนค. ติดตามข้อมูลการส่งออกสินค้ารายภูมิภาคของไทย พบว่าปี 2564 มูลค่าการส่งออกของภาคใต้ เติบโตสูงถึง 34.7% สูงกว่าอัตราการเติบโตของการส่งออกของประเทศโดยรวม ที่ปี 2564 การส่งออกรวมมีมูลค่า 271,174 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 17.1% โดยการส่งออกของภาคใต้มีมูลค่า 11,817 ล้านเหรียญสหรัฐ รองจากกรุงเทพ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ที่มีมูลค่า 94,955 78,780 70,016 […]

ธนาคารโลกจี้ไทยปฏิรูปเศรษฐกิจ รื้อเกณฑ์ล้าหลังดึงเงินต่างชาติ

นางเบอร์กิท ฮานสล์ ผู้จัดการธนาคารโลกประจำประเทศไทย กล่าวในงานเปิดตัว “รายงานการวิเคราะห์ภาคเอกชนของประเทศไทย : พลิกฟื้นผลิตภาพด้วยเครื่องยนต์ใหม่ให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยืดหยุ่นและมั่นคง” ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างธนาคารโลกและบรรษัทการเงินระหว่างประเทศ (IFC) โดยระบุว่า ช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 สูงมาก ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยมีพื้นฐานที่ดีจากภาคการผลิต และการส่งออก แต่หลายปีที่ผ่านมาพบว่า การลงทุนใหม่ๆลดลงมาก เช่นเดียวกับการลงทุนจากต่างประเทศที่ชะลอลง เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านปรับเปลี่ยนเกณฑ์การส่งเสริมการลงทุนได้ดีขึ้น จึงถึงเวลาที่ต้องปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจเพื่อหาเครื่องยนต์ใหม่ๆ กระตุ้นให้เศรษฐกิจกลับมาขยายตัว ที่มา : https://www.thairath.co.th/business/finance/2322906

ครม.ยกเว้นภาษีเงินได้ต่างชาติ 3 กลุ่ม-ลดภาษีผู้เชี่ยวชาญพิเศษเหลือ 17%

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร(ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ซึ่งเป็นมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย โดย ครม.ยกเว้นภาษีเงินได้ผู้ถือวีซ่าพำนักระยะยาว 3 กลุ่ม พร้อมลดภาษีเงินได้กลุ่มเชี่ยวชาญพิเศษเหลือ 17% สำหรับผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษทำงานในอุตสาหกรรมเป้าหมาย หวังดึงชาวต่างชาติศักยภาพสูงเข้าไทยหนุนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ที่มา : https://news.thaipbs.or.th/content/312966

“คลัง” ลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ผู้ถือ “long term visa” เหลือ 17% ดึงดูดชาวต่างชาติศักยภาพสูงเข้าไทย

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดชาวต่างชาติ ผู้ถือวีซ่าประเภทผู้พำนักระยะยาว (LTR Visa) โดยให้การยกเว้นภาษีสำหรับกลุ่มผู้มีความมั่งคั่งสูง กลุ่มผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ กลุ่มที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย และลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้กับกลุ่มผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ เหลือเพียง 17% ทำให้ชาวต่างชาติผู้มีฐานะทางเศรษฐกิจหรือมีความรู้ความเชี่ยวชาญเข้ามาพักอาศัยหรือทำงานในประเทศไทยเพิ่มขึ้นเป็นการเพิ่มจำนวนฐานภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาส่งเสริมให้เกิดการบริโภคและการลงทุนในประเทศ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ที่มา : https://siamrath.co.th/n/325080

ดัชนี SMESI เดือน ม.ค.เหนือระดับค่าฐานต่อเนื่อง 3 ด.ติด รับปัจจัยบวกกำลังซื้อเพิ่ม-มาตรการรัฐหนุน

“สสว.”เผยดัชนี SMESI เดือน ม.ค.65 ภาพรวมยังอยู่เหนือระดับค่าฐานต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 สะท้อนความเชื่อมั่นในธุรกิจของ SME ปัจจัยบวกมาจากกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ ความสามารถในการปรับตัวของผู้ประกอบการ เช่นเดียวกับ SMESI รายภูมิภาค ทั้งภาคตะวันออก ภาคกลาง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ปัจจัยที่ต้องเฝ้าระวังคือต้นทุนราคาสินค้า ค่าวัตถุดิบ ค่าขนส่ง ฯลฯ ผลจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ที่มา: https://siamrath.co.th/n/324885

เอกชนจับตารัสเซียยูเครนเชื่อไม่กระทบส่งออก

สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนยังคงต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเวลานี้ยังคงมีความไม่ชัดเจนว่าประเทศที่เกี่ยวข้องจะเดินหน้าไปในทิศทางใด แต่เชื่อว่ากำลังหาทางออกที่ดีที่สุด ในขณะที่ประเทศไทยเองการค้าในภูมิภาคดังกล่าวอาจได้รับผลกระทบ แต่เชื่อว่าจะไม่ถึงขั้นทำให้การส่งออกของประเทศไทยหยุดชะงัก เนื่องจากเวลานี้ หลายฝ่ายได้มีการเตรียมแผนรองรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น ด้วยการ พิจารณาหาตลาดอื่นรองรับและเชื่อว่าเมื่อสถานการณ์จบลงจะสามารถกระตุ้นยอดการส่งออกเพื่อชดเชยในส่วนที่ได้รับผลกระทบได้อย่างไรก็ตามมองว่าสินค้าที่จะได้รับผลกระทบส่วนใหญ่จะอยู่ในส่วนของสินค้าฟุ่มเฟือยหรือสินค้าที่ไม่มีความจำเป็นต่อการครองชีพ แต่สำหรับสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไปรวมถึงสินค้าอาหารนั้นเชื่อว่ายอดขายจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ที่มา : https://www.innnews.co.th/news/economy/news_295793/

ครม.ทุ่ม 7,660 ล้านบาท ประกันรายได้ปาล์มน้ำมัน

ครม.อนุมัติโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันปี’64–65 วงเงิน 7,660 ล้านบาท ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ เพื่อสร้างความมั่นคงทางรายได้ในช่วงที่ราคาผลผลิตตกต่ำแก่เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันทั่วประเทศประมาณ 3.8 แสนราย โดยยังคงหลักการเดิมเช่นเดียวกับในครั้งที่ผ่านมา คือ กำหนดราคาประกันของปาล์มทะลาย (อัตราน้ำมันร้อยละ 18) กิโลกรัมละ 4 บาท ให้ความช่วยเหลือครัวเรือนละไม่เกิน 25 ไร่ ที่ผ่านมาโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันปี 2564 รัฐบาลไม่มีการจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างตลอดทั้งโครงการ เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันปาล์มในการบริโภคและพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ปาล์มทะลายมีราคาเฉลี่ยทั้งปี 2564 อยู่ที่ประมาณ 6.9 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งสูงกว่าราคาประกันรายได้ที่กำหนดไว้ 4 […]

สรรพสามิตไปแน่! ส่งทีมลุยตรวจ ‘เหล้า-เบียร์’ ร้านขายปลีกขายส่ง มี.ค.นี้

นายณัฐกร อุเทนสุต ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต กล่าวว่า ในเดือนมี.ค.นี้ กรมจะส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบราคาขายปลีกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามร้านค้าขายปลีกขายส่ง ทั้งสุราขาว สุราสี เบียร์ ว่ามีการจำหน่าย ตามราคาขายปลีกแนะนำที่แจ้งมายังกรมฯ หรือไม่ โดยหากพบว่ามีการขายราคาสูงเกิน 5% กรมฯจะเรียกผู้ผลิตเข้ามาแจ้งปรับราคา เพื่อเก็บภาษีใหม่ตามราคาที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีผู้ผลิตสุรา เบียร์ แจ้งขอปรับราคาขายปลีกเข้ามายังกรมฯ ส่วนถ้าผู้ค้าส่ง ค้าปลีกมีการปรับขึ้นราคาเอง โดยอ้างจากต้นทุนค่าขนส่งที่เพิ่ม กรมฯก็จะส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบเป็นรอบๆ ทุกไตรมาส ถ้าพบ ก็จะให้ผู้ผลิตมาแจ้งปรับขึ้นเพื่อเสียภาษีใหม่ ที่มา: https://www.matichon.co.th/uncategorized/news_3197748