เฟดขึ้นดอกเบี้ย จับตา 3 ปัจจัยธปท.ขยับนโยบายการเงิน

ดร.เชาว์ เก่งชน  ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ปรับดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 0.25% และจะปรับขึ้นอีก 6 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ทำให้ดอกเบี้ยสหรัฐสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ 1.75-2% โดยต้องติดตามธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่าจะดำเนินนโยบายการเงินอย่างไร โดยมี 3 ปัจจัยต้องติดตาม คือ 1.ขึ้นอยู่กับเฟดจะปรับดอกเบี้ยมากขึ้นหรือเร็วขึ้นหรือไม่ 2.เงินเฟ้อไทยจะสูงยาวไปจนถึงครึ่งปีหลังปีนี้หรือไม่ และ 3.จะมีเงินไหลออกประเทศมีผลต่อเงินบาทให้อ่อนค่าหรือผันผวนหรือไม่ ซึ่งอาจจะทำให้ […]

สภาดิจิทัลฯ คาดเงินลงทุนใน Startup เพิ่มขึ้น 3.2 แสนล้าน หลังรัฐเว้นภาษี

นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธาน สภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย กล่าววว่า สภาดิจิทัลฯ เห็นถึงความสำคัญต่อการส่งเสริมการลงทุนสำหรับธุรกิจด้านเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพในประเทศไทย จึงได้ร่วมมือกับภาครัฐและองค์กรพันธมิตรผลักดันให้รัฐบาลออกกฎหมายเกี่ยวกับมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการระดมทุนในวิสาหกิจเริ่มต้น หรือ สตาร์ทอัพ ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสนับสนุนให้สตาร์ทอัพไทยสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการระดมทุนจากนักลงทุนได้เพิ่มมากขึ้น โดยคาดการว่าจะมีเงินลงทุนใน Startup เพิ่มขึ้น 3.2 แสนล้าน ภายในปี 2569 หลังรัฐเว้นภาษี Capital Gains จ้างงานเพิ่มขึ้นกว่า 4 แสนตำแหน่ง และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจโดยรวม 790,000 ล้านบาท ที่มา : https://www.thairath.co.th/business/economics/2343265

ธปท.จับตาเงินเฟ้อพุ่ง กระทบผู้มีรายได้น้อย ยันเศรษฐกิจไทย ‘แกร่ง’

นายปิติ ดิษยทัต ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงินธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจไทย ปัจจุบัน ยังเผชิญกับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นตัวเท่าก่อนโควิด โดยมองว่าการฟื้นตัว ไปสู่ระดับนั้นอาจเห็นได้ในปลายปี หรือต้นปีหน้า อีกทั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ยังมีความไม่ทั่วถึง ยังเป็นลักษณะ K-Shaped Recovery ดังนั้นในด้านการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ยังคงมีความแตกต่างกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่ง ธปท. ยืนยันไม่จำเป็น ต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ย ตามทิศทางดอกเบี้ยโลก หวังเป็นมาตรการสำคัญดูแลเศรษฐกิจฟื้นตัว ในด้านของเงินเฟ้อพุ่งเป็นปัจจัยชั่วคราว เกิดจากซัพพลายช็อคในต่างประเทศ แต่ผลกระทบยังอยู่ในวงจำกัด ห่วงผู้มีรายได้น้อยลำบาก […]

เอสเอ็มอีเดือดร้อนต้นทุนเพิ่ม รับผลกระทบจากศึกรัสเซีย-ยูเครน

นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เปิดเผยรายงานสถานการณ์และวิเคราะห์เตือนภัยเอสเอ็มอีเกี่ยวกับการสู้รบระหว่างรัสเซียกับยูเครน ว่าสถานการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลกระทบทั้งเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก ซึ่งเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบเนื่องจากรัสเซียเป็นหนึ่งในคู่ค้าสำคัญและเป็นประเทศเป้าหมายที่ไทยต้องการขยายความสัมพันธ์ทั้งการค้าการลงทุน เพราะเป็นประตูที่สามารถจะขยายไปสู่กลุ่มประเทศในภูมิภาคยูเรเซีย อีกทั้งยังเป็นตลาดหลักของการท่องเที่ยวไทย ขณะที่ยูเครน เป็นประเทศที่ไทยมีมูลค่าการส่งออก 134.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นส่วนของเอสเอ็มอี 15.10 ล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้นกว่า 30% สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจประเทศโดยภาพรวม โดยเฉพาะราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ และราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้น ส่งผลต่อต้นทุนการประกอบการให้เพิ่มสูงขึ้น ที่มา: https://www.naewna.com/business/641876

KKP หั่น GDP เหลือ 3.2% หวั่นราคาน้ำมันสูง กระทบเศรษฐกิจไทยหนัก

KKP Research โดยเกียรตินาคินภัทร ปรับการคาดการณ์ GDP ปี 2022 ในกรณีฐานเหลือ 3.2% จากที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 3.9% โดยประเมินว่าความไม่แน่นอนต่อภาพแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อมีสูงขึ้นมาก จากผลกระทบของสถานการณ์ยูเครนและรัสเซีย และปรับประมาณการเงินเฟ้อเฉลี่ยจากที่เคยคาดไว้ที่ 2.3% โดยผลจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนในปัจจุบัน ทำให้ความไม่แน่นอนของแนวโน้มเศรษฐกิจโลกสูงขึ้น และเศรษฐกิจไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นเนื่องจากมีการพึ่งพาพลังงานในสัดส่วนที่สูงเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ที่มา: https://www.bangkokbiznews.com/business/993868

หอการค้า จี้รัฐยกเลิกตรวจ RT-PCR ก่อนเข้าไทย เร่งประกาศโควิดเป็นโรคประจำถิ่น

เมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2565 นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดในประเทศ ปัจจุบันถือว่าทรงตัวและคาดว่าจะมีแนวโน้มดีขึ้น และหลายประเทศต้องการให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่น จึงอยากเสนอให้ทยอยผ่อนผันมาตรการต่างๆ ลง รวมไปถึงผ่อนคลายการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้ สำหรับมาตรการทางสาธารณสุข เอกชนก็พร้อมที่จะหารือร่วมกันกับภาครัฐอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การเปิดประเทศกลับมาได้เร็วขึ้น ซึ่งรัฐบาลควรเริ่มผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศระบบ Test&go โดยไม่จำเป็นต้องตรวจ RT-PCR ใน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทางเข้าประเทศ แต่ให้ตรวจ RT-PCR จำนวน 1 ครั้ง […]

ส่งออกน้ำผลไม้ทำเงินกว่า2หมื่นล้าน

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผู้อํานวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ไทยเป็นผู้ส่งออกน้ำผลไม้อันดับที่ 8 ของโลก  ปี 2564 มีมูลค่า 640.98 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 20,189.03 ล้านบาท ขยายตัวจากปีก่อนหน้าถึง 14.31%  โดยในช่วงระยะเวลา 10 ปี ( 2555 – 2564) พบว่าผลิตภัณฑ์น้ำผลไม้ที่ผลิตจากไทย มีวางจำหน่ายมากเป็นอันดับ 2 ของโลก มีจำนวน […]

“ประยุทธ์”เร่งรับมือวิกฤติเงินเฟ้อ สั่งกระทรวงเศรษฐกิจทำแผนดูแลประชาชน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรียกหน่วยงานเศรษฐกิจมาหารือเพื่อประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจนาน 2 ชั่วโมง ห่วง“วิกฤติเงินเฟ้อ”จากปัญหาราคาน้ำมันและราคาพลังงานที่ดีดตัวขึ้นจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน จนกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน สั่งทุกหน่วยงานหามาตรการรับมือด่วน “สุพัฒนพงษ์-อาคม” เร่งทำแผนอุ้มประชาชน ครม.เคาะร่างแผนรับรองวิกฤติน้ำมัน ขยายเพดานกู้ของกองทุนน้ำมัน หลังติดลบเกือบ 3 หมื่นล้าน ด้านกระทรวงเกษตรฯและกระทรวงพาณิชย์ รอความชัดเจนของมาตรการดูแลราคาปุ๋ย ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/business/993809

ซาอุเลิกแบนนำเข้าไก่ไทย 5 โรงงานซีพีเอฟจ่อส่งมอบ

องค์การอาหารและยา ซาอุดีอาระเบีย (SFDA) แจ้งผลการพิจารณาว่าจะยกเลิกการห้ามนำเข้าสินค้าสัตว์ปีกและผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกจากประเทศไทยหลังจากที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2548 ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของอุตสาหกรรมไก่เนื้อของไทย โดยตลาดซาอุฯเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง มีประชากร 35.6 ล้านคน อยู่ในกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ (Gulf Corporation Council) นำเข้าผลิตภัณฑ์ไก่สูงสุดถึงปีละ 5.9 แสนตัน ภาพรวมการส่งออกผลิตภัณฑ์ไก่ในปี 2565 คาดว่ามีปริมาณ 940,000 ตัน ขยายตัว 1% เมื่อเทียบจากปีที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่า 108,000 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตาม ปีนี้ผู้ส่งออกต้องเผชิญต้นทุนที่ปรับตัวสูงขึ้น […]

สรท.ประเมินสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำส่งออกไทยปี65 โตแค่ 5%

นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าจากการติดตามและประเมินผลกระทบจากการสู้รบระหว่างรัสเซีย–ยูเครน ที่ยังไม่เห็นว่าจะยุติลงเมื่อใด โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งเริ่มส่งผลกระทบต่อราคาวัตถุดิบในการผลิตสินค้าหลายตัวปรับราคาสูงขึ้น รวมถึงค่าระวางเรือที่ปรับสูงขึ้นตามราคาน้ำมัน  โดยจะเห็นผลชัดมากขึ้นในช่วงต้นเดือนเม.ย.  ซึ่งเป็นผลจากราคาวัตถุดิบที่ส่งผลต่อต้นทุนแต่ราคาขายไม่สามารถที่จะปรับขึ้นได้ตามต้นทุนที่แท้จริงทั้งและต่างประเทศ สุดท้ายปริมาณคำสั่งซื้อก็จะลดลง และเมื่อเราไม่สามารถแข่งขันด้านราคาได้สิ่งที่ต้องทำคือ การลดปริมาณการส่งออก  โดยการส่งออกในไตรมาส 2 จะไม่เติบโต อย่างไรก็ตามทั้งปี 64 ประเมินไว้ว่าปีนี้การส่งออกของไทยจะขยายตัว 5-8% ขณะนี้ไม่แน่แล้ว น่าจะอยู่ที่ 5 % เท่านั้น ที่มา: https://www.bangkokbiznews.com/business/993805