นักเศรษฐศาสตร์ชี้โควิดลามไม่หยุดซ้ำเติมผู้มีรายได้น้อย แนะรัฐกว้านซื้อวัคซีนฉีดด่วน!!

นายบุรินทร์ อดุลวัฒนะ หัวหน้าทีมนักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) มองว่า กรณีสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) คาดการณ์เศรษฐกิจไทยปีนี้จะเติบโต 1.5-2.5% นั้น ส่วนตัวประเมินไว้ที่ 1-2% และมองว่ามีโอกาสที่เศรษฐกิจจะโตต่ำกว่านี้หากไม่เร่งฉีดวัคซีนเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและขับเคลื่อนกิจกรรมเศรษฐกิจต่อไป จากจีดีพีไตรมาส 1 ที่ติดลบ 2.6% ถือว่าขยายตัวได้ดีจากที่คาดว่าติดลบ 3% ขณะที่ไตรมาส 2 คาดจะกลับมาเป็นบวกเพราะกิจกรรมเศรษฐกิจยังมีในช่วงสงกรานต์ แต่ต้องจับตาในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 จะเป็นบวกหรือไม่ เพราะขณะนี้การติดเชื้อรุนแรง และต้องลุ้นวัคซีนว่าจะกระจายได้ทั่วถึงหรือไม่ […]

‘พาณิชย์’ หนุนเวทีเอเปคใช้การค้าแก้เศรษฐกิจยุคโควิด

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หารือรัฐมนตรีกระทรวงการค้าและการส่งออกของนิวซีแลนด์ ซึ่งไทยพร้อมให้การสนับสนุนแถลงการณ์ร่วมทั้ง 3 ฉบับ พร้อมขอความร่วมมือนำเข้าสินค้าจากไทยมากขึ้น สำหรับความร่วมมือเอเปคเป็นกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจร่วมกันของกลุ่มประเทศในเอเชียและแปซิฟิคจำนวน 21 ประเทศ ก่อตั้งตั้งแต่ปี 2532 มูลค่าการค้าของไทยกับเอเปคอยู่ที่ปีละประมาณ 10 ล้านล้านบาท คิดเป็น 70% ของมูลค่าการค้าของไทยกับต่างประเทศ โดยในปี 2565 ไทยจะเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมเอเปค ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/938520

สภาพัฒน์หั่นจีดีพีปี 64 เหลือ 1.5-2.5% พิษโควิดฉุดช็อป เสื้อผ้า รองเท้า ท่องเที่ยวทรุด

สภาพัฒน์หั่นจีดีพีปี 64 เหลือ 1.5-2.5% จากเดิมที่คาดว่าเศรษฐกิจจะมีการเติบโตที่ 2.5-3.5% หลังไตรมาส 1 ปี 2564 จีดีพีหดตัว 2.6% จากผลกระทบโควิด-19 ซึ่งเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างช้าๆ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและปริมาณการค้าโลก การใช้จ่ายภาครัฐ และการปรับตัวตามฐานการขยายตัวที่ต่ำ ผิดปกติในปี 2563 คาดว่ามูลค่าจะขยายตัว 10.3% ขณะที่การอุปโภคบริโภคขยายตัว 1.6% และการลงทุนภาคเอกชนจะขยายตัว 4.3% ส่วนการลงทุนภาครัฐคาดว่าจะขยายตัว 9.3% ซึ่งภาคการท่องเที่ยวและบริการหดตัวมากถึง 63.5% หั่นเป้านักท่องเที่ยวทั้งปีเหลือ […]

ธปท.ไล่บี้แบงก์พาณิชย์อุ้มลูกหนี้ ออกมาตรการให้เอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งทุน

นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้อำนวยการอาวุโสสายนโยบายและตรวจสอบสถาบันการเงิน 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยผลการดำเนินงานของระบบธนาคารพาณิชย์ไทย ไตรมาส 1 ว่า มีความเข้มแข็ง สามารถรองรับความ ต้องการสินเชื่อและความผันผวนของเศรษฐกิจในช่วงโควิด-19 ได้ การขยายตัวของสินเชื่อไตรมาสนี้ชะลอตัวลง ทำให้ ธปท. เป็นห่วงแนวโน้มการเพิ่มขึ้นในระยะต่อไปของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิด รายได้ของธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 คือการท่องเที่ยว โรงแรม ที่พัก สายการบิน ร้านอาหาร ที่มา: https://www.thairath.co.th/business/finance/2094715

ส.อ.ท.ผนึก 163 บริษัท เร่งจ่ายค่าสินค้าเติมสภาพคล่องเอสเอ็มอี

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า  ขณะนี้ได้ฟื้นโครงการ “FTI Faster Payment Phase 2” ซึ่งได้จับมือกับ 163 บริษัทที่เป็นสมาชิก เพื่อเข้ามาช่วยเหลือสภาพคล่อง โดยได้ดำเนินโครงการ FTI Faster Payment (ส.อ.ท. ช่วยเศรษฐกิจไทย) ชำระหนี้ค่าสินค้าหรือบริการให้เอสเอ็มอี ภายใน 30 วัน โดยมีซัพพลายเออร์ไม่ต่ำกว่า 20,000 กิจการที่ได้รับประโยชน์ มีมูลค่าการซื้อขาย ในซัพพลายเชนอย่างน้อย 4,300 ล้านบาทต่อเดือน […]

สมาชิก RCEP เดินหน้ากระบวนการให้สัตยาบัน ตั้งเป้ามีผลบังคับใช้ภายในปีนี้

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศแจ้งความคืบหน้าการให้สัตยาบัน RCEP ล่าสุด สิงคโปร์และจีน ได้ยื่นให้สัตยาบันแล้ว ประเทศสมาชิกอื่นกำลังดำเนินกระบวนการภายใน ส่วนไทย 3 หน่วยงานกำลังออกกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง คาดแล้วเสร็จและยื่นให้สำนักงานเลขาธิการอาเซียนได้ ภายใน ต.ค. นี้ ตั้งเป้ามีผลบังคับใช้ได้ทันภายในปีนี้ ชี้ไทยจะได้ประโยชน์ชัดเจน โดยเฉพาะการเปิดตลาดเพิ่มเติมจากเกาหลี ญี่ปุ่น และจีน ซึ่งในปี 2563 การค้าระหว่างไทยกับสมาชิก RCEP มีมูลค่ารวม 7.87 ล้านล้านบาท เป็นการส่งออกมูลค่า 3.83 ล้านล้านบาท ตลาดส่งออกสำคัญ คือ […]

พาณิชย์ นัดถกเอกชนทบทวนเป้าส่งออกใหม่

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ นัดประชุมประเมินสถานการณ์การส่งออกประจำไตรมาส 2 ปี 2564 ร่วมกับภาครัฐและเอกชนในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ 18 พ.ค. นี้ หลังสถานการณ์เปลี่ยนพบแนวโน้มดีขึ้น ทั้งการส่งออกรายสินค้า และรายตลาด โดยการส่งออกไตรมาสแรกของปี 2564 (ม.ค.-มี.ค.) มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 64,148.03 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 2.27% คาดปีนี้ ยอดส่งออกโต 4% ตามเป้ากระทรวงพาณิชย์ สำหรับปัจจัยที่จะส่งผลดีต่อการส่งออก มาจากแรงสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่สุดของสหรัฐฯ และการเร่งฉีดวัคซีนทั่วโลก รวมถึงเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญของไทยปรับตัวดีขึ้น ที่มา : […]

ททท.ชง 25 แหล่งอันซีนแก้เกม “โควิด” ระลอก 3 ฟาดหนัก “ไทยเที่ยวไทย” วูบ

ททท.ประเมินแนวโน้มตลาดท่องเที่ยวในประเทศปี 2564 คาดมีจำนวนนักท่องเที่ยวไทยอยู่ที่ 90 ล้านคน-ครั้ง หรือขอไม่น้อยกว่าปีที่แล้วซึ่งมีจำนวน 90.52 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 482,000 ล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ ททท.ก็เตรียมกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศทันทีที่สถานการณ์โควิด-19 ระลอก 3 คลี่คลาย หลังจากคนไทยอัดอั้นเดินทางไปไหนไม่ได้ ต้องเร่งให้เกิดกระแสการเดินทางและใช้จ่ายมากขึ้น นอกจากนี้ ททท.ยังได้เตรียมแคมเปญกระตุ้นท่องเที่ยวไว้หลายโครงการ เช่น แคมเปญเปิดตัวแหล่งท่องเที่ยวอันซีน 25 แห่ง ที่มา: https://www.thairath.co.th/business/economics/2093872

พาณิชย์คาดส่งออกไม้ดอกไทยสดใสหลังโควิด-19

สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยผลการศึกษาการส่งออกไม้ดอกของไทย และการเตรียมความพร้อมของผู้ประกอบการไทยหลังโควิด-19 พบว่า ไม้ดอกไม้ประดับ เป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญที่สร้างรายได้ให้กับประเทศไทยอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และจากการประเมินสถานการณ์หลังโควิด-19 โอกาสการส่งออกไม้ดอกของไทยจะฟื้นตัวได้ เนื่องจาก โควิด-19 ทำให้ผู้คนมีเวลาเพิ่มขึ้นจากวิถีการปรับเปลี่ยนมาทำงานที่บ้าน ทั้งนี้ สำหรับการเตรียมความพร้อมของผู้ประกอบการไม้ดอกส่งออกภายหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ควรศึกษากฎระเบียบที่เกี่ยวข้องให้เข้าใจอย่างดี ที่มา: https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/938392

จ่อเชือดขายสินค้าออนไลน์ไม่มี มอก. หลังได้รับข้อร้องเรียนจากผู้บริโภค

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม สั่งการให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) .ให้ตรวจควบคุมการจำหน่ายสินค้าทางออนไลน์อย่างเข้มงวด บนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันช็อปปิ้งออนไลน์ ซึ่งจากการร้องเรียนพบว่าแอปพลิเคชัน Shopee มีการจำหน่ายเครื่องหรี่ไฟ (Dimmer) หรืออุปกรณ์ที่ช่วยปรับเปลี่ยนความสว่างของหลอดไฟต่างๆ รุ่น Suntec STD-1600 โดยไม่แสดงเครื่องหมาย มอก. สมอ.จึงได้แจ้งให้บริษัทลบข้อความที่มีการโพสต์ออกทันที พร้อมทั้งให้ส่งภาพถ่ายฉลากสินค้าและแสดงหลักฐานแหล่งที่มาภายใน 15 วัน หากพบว่าไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรฐาน มอก.1955-2551 จะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้จำหน่ายทันที ที่มา: https://www.thairath.co.th/business/economics/2093870